อยู่ภูเก็ตมาเป็นระยะเวลานาน วันนี้เป็นวันที่มีความสุขอีกวันนึง ที่ได้มีโอกาสเจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เพื่อนที่สนิทมาก มีด้วยกันทั้งหมด 5-6 คน
หนึ่งในนั้นท่านได้บวชเป็นพระภิกษุมาเป็นระยะเวลา 9 พรรษาแล้ว น่ายกย่องมาก ดูหน้าตาอิ่มเอิบ และได้มีโอกาสเจอท่านที่ภูเก็ตวันนี้ หลังจากที่ไม่เคยได้เจอเลยเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี
ตอนแรกก็เกือบจะไม่ได้เจอ เพราะพระท่านต้องรีบเดินทางกลับกระบี เลยต้องขับรถไปเจอพระท่าน เป็นครั้งแรกที่ไปป่าตองแล้วรู้สึกดี กับสถานที่แห่งนี้
บทกลอนเกี่ยวกับเพื่อนที่ยังจำขึ้นใจสมัยประถมก็ยังใช้ได้เสมอ
เพื่อนที่ดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
มีเกลืออยู่ หน่อยหนึ่ง ซื้งราคา
ยังดีกว่า มีน้ำเค็ม เต็มทะเล
น่าจะเป็นบทกลอนที่เข้ากันได้ดีกับภาพมากที่สุด ที่จะคอยเตือนใจอยู่เสมอว่าน้ำทะเลที่อยู่ข้างหลัง ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจริง ๆ แถมเผลอกลายเป็นคลื่นยักษ์เสียอีก
i am sorry sir , i just say sorry only without do anything. i know that i am so bad in here, but i not my mind sir! i am sorry to bring you so many inconvenient to you. thank to your help and thank to you care of me like a baby. sorry…
เผอิญเปิดมาอ่าน …ซาบซึ้งฮะ ซาบซึ้ง
กี้
อืมมมมมมมมม
ซาบซึ้ง กินจายยยยยยยยยยย
ไม่รู้คิดไปเองป่าวนะ
แต่เพื่อนพระของคุณ หน้าตาคุ้นๆยังไงไม่รู้ เหมือนเคยเจอที่หนายซักแห่ง